MUSLIM IN CHAINGMAI
   
 
  นักรบ รุ่นสุดท้าย กองพล93.ก๊กมินตั๋ง
นักรบ รุ่นสุดท้าย กองพล93.ก๊กมินตั๋ง


 

 

 


 


 


 


 


 
เมื่อความหมายของความเป็นชาติ คือเกียรติ และศักดิ์ศรีของชีวิต เส้นทางของลูกผู้ชายคนหนึ่งคงไม่ต้องคิดอะไรให้มากกว่า "ไม่สู้ก็ตาย..."

นิยามง่ายๆ เมื่อ 'ชาติ' ถูกรังแก การลุกขึ้นต่อสู้กับผู้รุกรานย่อมเป็นสิทธิอันชอบธรรม แต่หากต้องมาเสียเลือดเนื้อด้วยการหันกระบอกปืนเข้าใส่กันเองแล้ว ความละเอียดอ่อนทำนองนี้ค่อนข้างจะอยู่เหนือวิสัยของเหตุผลพอสมควร วันเวลากว่าค่อนศตวรรษของใครคนหนึ่งถูกผูกติดด้วยสิ่งเหล่านี้มาโดยตลอด ใครบางคนที่ถูกเรียกขานกันว่าเป็น นักรบรุ่นสุดท้ายแห่งบ้านสันติคีรี

เรื่อง

ในรัศมี 300 เมตรล้วนมีแต่เสียงฝนหล่นกระทบกิ่งไม้ ฝนห่าใหญ่ในรอบหลายวันมานี้กำลังชะหน้าดินตามเนินตะปุ่มตะป่ำให้กลายเป็นกอง เลนขนาดย่อมๆ กลืนร่างในชุดสีเขียวขี้ม้านับสิบที่ซุกตัวแน่นิ่งกระจัดกระจายอยู่ตามแนว ชายป่า เกือบชั่วโมงก่อนฝนจะซาลงพอให้มองเห็นตัวป่าได้บ้าง หลายสายตาเริ่มสอดส่ายหากัน ทันทีที่เสียงแปลกประหลาดเริ่มใกล้เข้ามา ระบบเซฟในปืนของแต่ละคนถูกปลดออกพร้อมกระชับให้แน่นแนบกาย บางสายตาเล็งผ่านศูนย์นั่งแท่นในท่าเตรียมยิง ขณะนิ้วสอดเข้าโกร่งไกเพื่อรอเวลา

ชั่วอึดใจ เสียงลูกตะกั่วแหวกอากาศ และประกายไฟจากปากกระบอกปืนยาวขนาดเล็กก็ดังระงมขึ้น หลายคนลุกขึ้นวิ่งเพื่อมุ่งสู่เป้าหมายตรงหน้า ขณะที่บางคนร้องตระโกนด้วยความเจ็บปวดหลังกระสุนทะลวงชั้นเนื้อเข้าไปข้างใน ตัว ระเบิดที่ดังมาจากทุกทิศทาง ทำให้เกิดกลุ่มควันขนาดใหญ่อำพรางร่างทั้ง 2 ฝ่ายเอาไว้ เสียงสูดหายใจหอบถี่หลังเนินดิน สิ่งที่เรียนรู้จากการฝึกภาคสนามชั่วโมงนี้คงใช้ได้ไม่ดีเท่าประสบการณ์ และสัญชาตญาณของตัวเอง เงาเลือนรางกำลังเคลื่อนไหวอยู่ในม่านควัน หลังเพ่งสายตาดูจนแน่ใจแล้วเสียงปืนอีก 1 นัดก็ดังขึ้น...

การปะทะกันครั้งนั้นไม่ถึงกับถูกประทับตราในฐานะสมรภูมิแห่งความทรงจำ เพียงแต่เป็นวาบความคิดที่มักปรากฏขึ้นเมื่อถูกย้อนถามถึงคืนวันก่อนเก่าของ นายพล หลุย ยี่ เถียน วัย 92 ปี อดีตนายทหารแห่งกองทัพพรรคก๊ก มิน ตั๋ง หรือกองพล 93 แห่งดอยแม่สลอง

"ไม่ฆ่าเขาเราก็ตาย" เขาเอ่ยถึงสัจธรรมในสงคราม

นับจากวันนั้น เป็นเวลาล่วงเลยมากว่า 30 ปีแล้วที่เสียงปืนของการสู้รบได้สิ้นสุดลง แต่เรื่องราวของกองทัพที่ซุกซ่อนตัวอยู่ในอ้อมกอดของขุนเขาก็ยังคงถูกเล่า ขานสืบต่อเรื่อยมา

กองทัพแห่งขุนเขา

แสงอาทิตย์ขับสีนวลทองให้ทะเลหมอกโอบล้อมหมู่ทิวเขาที่เรียงรายสลับซับซ้อน สุกเปล่งราวกับภาพวาดจากมือจิตรกรชั้นครูมาตั้งอยู่ตรงหน้า บรรยากาศอย่างนี้ ชาอุ่นๆ ในมือ กับใครบางคนมานั่งดูชั่วโมงรุ่งอรุณบนยอดดอยด้วยกันข้างๆ ก็น่าจะเป็นอีกทริปในความทรงจำไปอีกนานแสนนาน

สุดสัปดาห์บนดอยแม่สลอง จังหวัดเชียงราย จึงกลายเป็นหมุดหมายอีกแห่งที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวคนแล้วคนเล่าให้ขึ้นมา สัมผัสบรรยากาศความโรแมนติกแบบนั้น

นอกจากความสวยงามของธรรมชาติในวันนี้ที่ผิดแผกออกไปจากบรรยากาศเมื่อ 30 ปีก่อนอย่างสิ้นเชิง ครั้งหนึ่ง แม่สลองเคยถูกจัดอันดับให้อยู่ในโซนพื้นที่สีแดง แนวปะทะระหว่างกองกำลังคอมมิวนิสต์กับทหารฝ่ายรัฐบาลโดยอยู่ในเขตรับผิดชอบ ของกองพล 93

กองพล 93 (ก๊กมินตั๋ง) แต่เดิมเป็นกองทัพของรัฐบาลจีนภาคใต้ของจอมพลเจียง ไค เช็ก ซึ่งเป็นตัวแทนของฝ่ายรัฐบาลจีนที่ส่งมารักษาชายแดนจีน-พม่า หลังจากผืนแผ่นดินจีนกลายเป็นสีแดง เมื่อปี พ.ศ. 2492 พรรคคอมมิวนิสต์ และพรรคก๊ก มิน ตั๋งได้ทำการสู้รบครั้งสุดท้ายที่แม่น้ำ หยวน เจียง ตอนกลางของมณฑลยูนาน โดยจีนคอมมิวนิสต์เป็นฝ่ายได้รับชัยชนะ กองกำลังส่วนหนึ่งของก๊กมินตั๋งได้ฝ่าวงล้อมของฝ่ายตรงข้ามตามรอยตะเข็บของ จีน-พม่า และเข้ามายังบริเวณตอนเหนือของประเทศไทย ก่อนที่จะปักหลักกระจายตัวกันอยู่ในพื้นที่ จีนตอนใต้ พม่า ไทย ลาว ประมาณ 30,000 คน จากเหตุการณ์ในครั้งนั้น กองพล 93 จึงกลายเป็นทหารไร้สังกัด หนีการกวาดล้างของฝ่ายคอมมิวนิสต์ ก็มาตั้งหลักอยู่ที่เมืองเชียงลับ ในเขตประเทศพม่า โดยมีอาสาสมัครและครอบครัวลี้ภัยตามออกมาสมทบมากมาย จนได้จัดเป็นกองทัพได้ 5 กองทัพ ภายใต้คำบัญชาการของนายพล หลี่ หมี

ก่อนเข้าร่วมกองทัพ ในวัย 18 ปีของ หลุย ยี่ เถียน ก็ไม่ต่างจากลูกผู้ชายชาวจีนคนอื่นๆ ที่มีใจรักชาติเหนือสิ่งอื่นใด การการรุกรานของกองทัพญี่ปุ่นในสงครามมหาเอเชียบูรพา ทำให้เขาและพรรคพวกอีกจำนวนหนึ่งจากมณฑลยูนนานบ้านเกิดไปเข้าโรงเรียนนาย ร้อยเพื่อรับใช้ชาติ

"เราเห็นความโหดร้ายของสงคราม เห็นประเทศชาติถูกรุกราน มันก็เป็นหน้าที่ของลูกผู้ชายทุกคนอยู่แล้วที่จะต้องออกมาปกป้องประเทศ" เขาให้เหตุผล

หลังจากเรียนจบ งานแรกของเขาคือการปฏิบัติภารกิจใน นานกิง ก่อนจะย้ายกลับมาประจำการอยู่ที่ยูนนานเมื่อสงครามสิ้นสุดลง ต่อมาเมื่อเกิดเหตุการ 'จราจล' ของมวลชนเนื่องจากความไม่พอใจในระบบการปกครองของพรรคก๊กมินตั๋ง และลุกลามใหญ่โตกลายเป็นพรรคคอมมิวนิสต์ทำสงครามปลดแอกประเทศจีน เขาได้เข้าร่วมกับฝ่ายจอมพลเจียงไคเช็ค โดยตรึงกำลังอยู่ทางตอนใต้ของจีน

"มันไม่มีเหตุผลในการเลือกข้างหรอก เราเป็นทหารของรัฐบาลกลางอยู่แล้ว หน้าที่ของเราก็ต้องร่วมมือกับรัฐบาลในการปราบปรามความไม่สงบ อีกอย่างถ้าผมเข้าไปอยู่ฝ่ายโน้นก็อาจจะโดนฆ่าตายไปนานแล้วก็ได้ เพราะที่นั่นมีนโยบายไม่ยอมรับคนที่มีการศึกษา คนที่มีฐานะร่ำรวย ยิ่งระดับนายทหารยิ่งถือเป็นศัตรูตัวฉกาจ" นายพลหลุยย้อนความทรงจำสมัยที่เขายังดำรงตำแหน่งนายทหารคนหนึ่งในกองทัพ

มุมมองของเขาถือว่า เหมาเจ๋อตุง เป็นนักการเมืองที่เก่งกาจคนหนึ่ง แต่วิธีการ และแนวคิดที่อยู่กันคนละขั้วทำให้เสือ 2 ตัวอยู่ถ้ำเดียวกันไม่ได้

"เขาเป็นนักการเมืองที่เก่ง มีมุมมอง มีวิธีการนำเสนอที่สามารถจูใจผู้คนส่วนใหญ่ได้ เขาอ้างว่าแนวคิดของเขาเป็นประชาธิปไตย ในขณะที่วิธีการของจอมพลเจียงก็คือเผด็จการ สงครามจึงเกิดขึ้น และสุดท้ายพรรคคอมมิวนิสต์ก็ได้รับชัยชนะ"


ปัจจัยแห่งความเปลี่ยนแปลง

จากการแตกพ่ายครั้งแล้วครั้งเล่าของกองกำลังพรรคก๊กมินตั๋งทำให้ทหารต่าง กระจัดกระจายออกไป กองทัพหลักของเจียง ไค เช็ค ได้ถอยไปปักหลักต่อสู้อยู่ที่เกาะไต้หวัน ขณะที่กองกำลังส่วนหนึ่งแตกทัพลงไปทางตะวันตกเฉียงใต้ซึ่งติดกับชายแดน พม่า-ลาว

"เราถอยร่นลงมาเรื่อยๆ และกระจัดกระจายอยู่ชายแดนพม่า ไทย ลาว โดยมีฐานบัญชาการใหญ่อยู่ที่ เมืองสาด ประเทศพม่าก่อนจะย้ายมาอยู่ที่เมืองเชียงลับที่ติดฝั่งแม่น้ำโขง" นายพลหลุยขยายความ

พวกเขาใช้เมืองเชียงลับเป็นฐานที่มั่นยืนหยัดต่อมาได้อีก 8 ปี จนถึงปี 2504 รัฐบาลพม่าดำเนินการปราบปรามกองกำลังทหารจีนพลัดถิ่นเหล่านี้อย่างจริงจัง ทำให้กองกำลังของนายพลหลี่ หมี พ่ายแพ้ และกองทัพที่ 1, 2 และ 4 จำนวน 4,349 คน ได้ถูกส่งตัวไปไต้หวัน คงเหลือแต่กองทัพที่ 3 ของนายพลหลี่ เหวิน ฝาน และกองทัพที่ 5 ของนายพล ต้วน ซี เหวิน ที่ไม่ต้องการไปไต้หวันและได้นำกำลังอพยพหนีการกวาดล้างของพม่าเข้าสู่ภาค เหนือของประเทศไทย โดยไต้หวันประกาศจะไม่สนับสนุนช่วยเหลือกองกำลังที่ตกค้างเหล่านี้อีก

การ 'ตัดหาง' ดังกล่าวไม่ใช่การทอดทิ้งหรือปัดภาระอย่างที่เข้าใจกัน กลับเป็น 'กลยุทธ์' ที่ฝ่ายก๊กมินตั๋งใช้เพื่อป้องกันการรุกรานของพรรคคอมมิวนิสต์

"เราได้รับสารลับจากจอมพลเจียง ให้ยึดฐานที่มั่นส่วนนี้เอาไว้ เพื่อรอโอกาสเข้าตีขนาบพรรคคอมมิวนิสต์ หรือหากกองทัพแดงจะเข้าตีไต้หวันเราก็จะจู่โจมทางด้านยูนนานเพื่อเป็นการ ป้องกันได้อีกทางหนึ่ง" นายพลหลุยอธิบาย

หากมองถึงความเป็นไปได้ เขายอมรับว่าในตอนนั้นถึงฝ่ายตนเองจะพลาดท่าก่อน แต่ดูจากปัจจัยแวดล้อมต่างๆ แล้วในทางการทหารถือว่ายังมีโอกาสพลิกเกมกลับมาเป็นผู้ได้รับชัยชนะในภาย หลังได้ ทหารในกองกำลังที่ 3 และ 5 จึงตรึงกำลังอยู่ไม่สลายไปไหน แต่คงไม่มีใครรู้ว่าการตัดสินใจในครั้งนั้นจะเป็นจุดเริ่มต้นของชีวิตใหม่ใน เวลาต่อมา

หลังจากกองพล 93 ถูกกดดันจากรอบด้านมากขึ้นเรื่อยๆ ในที่สุด กองทัพที่ 3 ก็ถอยร่นมาจนถึงอำเภอฝาง จังหวัดเชียงใหม่ ส่วนกองทัพที่ 5 ได้ถอยมาปักหลักอยู่ที่ดอยแม่สลอง อำเภอแม่จัน จังหวัดเชียงราย โดยจอมพลถนอม กิตติขจร เป็นนายกรัฐมนตรีในสมัยนั้น ได้มอบหมายให้พล.อ.อ.ทวี จุลทรัพย์ และพล.ท.เกรียงศักดิ์ ชมะนันทน์ เป็นผู้เจรจากับไต้หวัน แต่ไม่สามารถตกลงกันได้ จนในปี 2513 อเมริกาก็ได้ตกลงเข้ามาช่วย รัฐบาลไทยจึงอนุญาตให้กองทหารจีนอยู่ได้ในฐานะผู้อพยพ เพื่อเป็นกองกำลังกันชนตามแนวชายแดน ป้องกันการแทรกซึมของ ผกค.และพล.อ.อ. ทวี ได้ตั้งชื่อหมู่บ้านแห่งนี้ว่าบ้านสันติคีรี หมายถึงหมู่บ้านในขุนเขาที่สงบสุข ในขณะที่คนจีนเรียกว่าเรียกดอยนี้ว่า เหมย ซือ เล่อ เป็นความหมายเดียวกันว่า ดินแดนที่มีความสุข


หลังจากนั้น กองกำลังทหารจีน 93 ซึ่งภายหลังได้ชื่อว่ากองทหารจีนคณะชาติก็ได้เป็นกำลังสำคัญร่วมต่อสู้ต่อ ต้านเหล่า 'ผู้ก่อการร้าย' (ผกค.) ในแถบจังหวัดเชียงรายหลายครั้ง โดยสามารถลดอิทธิพล ผกค.บนดอยหลวง ดอยยาว และดอยผาหม่นลงได้มาก รวมถึงสมรภูมิเขาค้อ จังหวัดเพชรบูรณ์ อันเป็นภารกิจสุดท้ายก่อนปลดอาวุธให้รัฐบาลไทย

เส้นทางสู่อนาคต

ระยะทางราว 42 กิโลเมตรจากตัวเมือง ผ่านถนนเลียดไหล่เขาเข้าสู่แหล่งชุมชนชาวเขาขนาดย่อมที่ซุกตัวอยู่ในอ้อมกอด ของขุนเขามานานนับทศวรรษ ในหมู่นักท่องเที่ยวรู้ดีว่า ที่นี่เป็นแหล่งปลูกชาที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศไทย ทำให้ของซื้อของขายในตลาดประจำหมู่บ้านมักเกี่ยวข้องกับชาเป็นส่วนใหญ่ รวมทั้งขาหมูหมั่นโถวตำรับจีนยูนนานอันเป็นเอกลักษณ์ คุณสมบัติเหล่านี้ทำให้หมู่บ้านสันติคีรีในวันนี้กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยว เชิงนิเวศที่น่าสนใจสำหรับนักท่องเที่ยวอีกแห่งหนึ่ง กลบภาพสมรภูมิอดีตให้เหลือไว้แต่เพียงเรื่องเล่าสู่คนรุ่นหลังได้ฟัง

ล่าสุด พื้นที่กว่า 9,000 ไร่ ของหมู่บ้านสันติคีรีได้อยู่ในโครงการปลูกป่ากองบัญชาการกองทัพไทย เป็นการฟื้นฟูพื้นที่ป่าเพื่อเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ดูแลโดยคนในชุมชนเอง โดยมีนายพลหลุย หรือ อรุณ เจริญทังจรรยา ประธานกรรมการหมู่บ้านเป็นคนดูแล

เขาเปิดเผยถึงสาเหตุของการเข้าเป็นพลเมืองไทยคนหนึ่งว่า เพราะความเป็นครอบครัวเดียวกันระหว่างคนไทยกับกองพล 93 ที่มีตลอดมา

"สงครามสิ้นสุดแล้ว และที่นี่ก็มี 2 กองทัพไม่ได้ มี 2 กฎหมายไม่ได้ ทุกอย่างต้องเป็นบรรทัดฐานเดียว เราจึงเข้าร่วมพัฒนาชาติไทย อีกอย่างทุกคนในกองพลไม่เคยคิดจะกลับไปไต้หวันหรือจีน เพราะมันไม่มีอะไรแล้ว ภารกิจสิ้นสุดแล้ว เราก็ถือว่าเราเป็นคนไทย ก็ไม่ได้มุ่งหวังว่าจะกลับไปจีน หรือไต้หวัน ถ้าจะกลับไปก็จะไปในฐานะแขกคนไทย"

กว่า 30 ปีที่เขาดึงตัวเองออกจากสงครามมาใช้ชีวิตอย่างชาวบ้านธรรมดาคนหนึ่ง สิ่งที่รู้สึกอยู่ตลอดก็คือความสงบสุขของชีวิต ไม่ต้องห่วงหน้าพะวงหลังเหมือนอย่างแต่ก่อนอีก

"ตอนนี้คนในหมู่บ้านก็ถือเป็นรุ่นที่ 2-3 แล้ว เขาก็ขึ้นมาเป็นระดับผู้นำหมู่บ้านแทน เราถือว่ามาถึงจุดสิ้นสุดแล้ว ได้ออกจากภารกิจ ไม่ต้องคอยระวังตัวอยู่ตลอดเวลาเหมือนอย่างแต่ก่อน"


ช่วงเวลาที่ผ่านมาถือว่าคุ้มไหม?


"เหตุการณ์ไม่ได้เกิดจากใครคนใดคนหนึ่ง แล้วมันก็จบสิ้นไปนานแล้ว เราก็ต้องถือว่ามันเป็นความทรงจำไป"

รอยยิ้มหลังคำตอบนั้นก็ปรากฏขึ้น

โดย ปีศาจชายแดน http://www.oknation.net/blog/chaiphoto/2009/01/07/entry-1
http://www.oknation.net/blog/chaiphoto

Muslim in chaingmai
 
-------
สาระประโยชน์
 
ส่งเมล์ถึงชุมพล ส่งเมล์ถึง Webmaster
 
naichumpon ไทยแลนด์นิวส์ OLDDREAMZ มุสลิมในเชียงใหม่2010 สทท เชียงใหม่ สารบัญเว็บไทย หางานทำทั่วประเทศ โลกมุสลิม อ.ราชัน ฮูเซ็น ชุมชนล้านนาพายัพ โปรแกรมน่าใช้ ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย ข่าวมุสลิม มุสลิมเชียงราย รวมของฟรีโค๊ดติดเว็บ video

อิสลามกับสันติวิธ๊

อาหารมุสลิมในเชียงใหม่

ศูนย์ประสานงานภาคเหนือ

สนง.อิสลามเชียงใหม่

พัฒนาชุมชนมุสลิม ชม.

muslimchaingmaithailand

องค์กรมุสลิมพัฒนาประชาธิปไตยภาคเหนือ

บอร์ดครอบครัวchumpon free website แจก java script code รวมของฟรีในเน็ต

ชุมชนมุสลิมไทยภาคเหนือ

 
Today, there have been 1 visitors (27 hits) on this page!
MUSLIN IN CHAINGMAI This website was created for free with Own-Free-Website.com. Would you also like to have your own website?
Sign up for free